LINE it!
 @allkaset





  • กะเม็ง


    กะเม็งเป็นวัชพืชที่รบกวน และสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองและพืชไร่บางชนิดเป็นอย่างมาก พบขึ้นบริเวณชุ่มชื้น เช่น ในนาข้าว ริมคลอง ริมบ่อน้ำ หรือในแปลงพืชไร่ทั่วๆ ไป ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด

     

    ลักษณะของกะเม็ง

    ลำต้น
    ลำต้นกลมตั้งตรงสูง 30-60 ซ.ม. มีขนแข็งสากมือ แตกแขนงมาก ที่โคนต้นอาจมีสีแดงอมม่วง ใบเป็นใบเดี่ยวออกจากลำต้นตรงข้ามเป็นคู่ ใบค่อนข้างแคบเรียวยาว ไม่มีก้านใบ มีขนสั้นๆ สีขาวปกคลุมทั่วใบ ชอบขึ้นและเติบโตในสภาพดินมีความชื้นและแห้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ขึ้นได้ในสภาพไร่ ดินชื้น แฉะหรือน้ำขัง

    ใบ
    เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอก ใบค่อนข้างแคบโคนเรียวปลายใบแหลม ฐานใบมีรอยเว้าและบานออกทั้งสองด้านเล็กน้อย ขอบใบเรียบ มีรอยหยักเล็กน้อยช่วงปลายใบ ไม่มีก้านใบ ผิวใบมีขนสั้น ๆ สีขาวปกคลุมทั้งสองด้าน

    ดอก
    เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อกระจุก ตามซอกใบและตามปลายยอด กลีบดอกสีขาว ดอกย่อยรอบนอกเป็นดอกตัวเมีย ลักษณะเป็นแผ่นสีขาวปลายมน เป็นรูปรางน้ำ ก้านดอกเรียวยาว.ปลายดอกหยักเป็น 2 แฉก มีดอกย่อยที่อยู่ตรงกลางเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีลักษณะคล้ายรูปถ้วย กลีบดอกจะติดกัน โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ส่วนปลายจะหยักเป็น 4 แฉก มีส่วนที่คล้ายกลีบเลี้ยง 5-6 กลีบ สีเขียวรองรับช่อดอก

    ผล
    มีสีเหลืองปนดำ ปลายมีระยางค์เป็นเกล็ด ผลแห้ง ไม่แตก แบน สีดำ

    โครงสร้างการเจริญเติบโต แบ่งออกเป็น 4 ระยะได้แก่
    ������� ระยะที่ 1 การเปลี่ยนแปลงจาก เมล็ด (seed) เป็นกล้า (seedling) มีการงอก แบบอีพิเจียล (epigeal germination) โดยเมล็ดจะแทงรากลงสู๋ดิน จากนั้นลําต้นใต้ใบเลี้ยง (hypocotyl) ยืดตัวขึ้นเหนือดินดึงใบเลี้ยงโผล่พ้นดิน และมีการกางใบ โดยใบเลี้ยงเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ (ovate) ขอบใบเรียบ (entire) ปลายใบมน (obtuse) 2 ใบเรียงตัวแบบตรงข้าม (opposite) จนกระทั่งใบจริงคู่แรกเจริญเติบโต และกางใบ สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงเองได้
    �������ระยะที่ 2 การเปลี่ยนแปลงจากกล้า เป็นระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศ (vegetative growth) ระยะนี้เริ่มใบจริงคู่แรกกางใบ ใบรูปหอก (lanceolate) เรียงตัวแบบตรงข้ามสลับตั้งฉาก (decussate) ลักษณะใบขอบใบเรียบปลายแหลม (acute) แผ่นใบมีขนสั้น ๆ ลําต้นตั้งตรงสูงได้ถึง 50 เซนติเมตร แตกกิ่งออกตามตาข้างบริเวณซอกใบ เริ่มมีตาดอกแรกที่ซอกใบโดยเฉลี่ยข้อที่ห้า จนกระทั่งเริ่มเกิดเป็นตุ่มดอกแรก
    �������ระยะที่ 3 การเปลี่ยนแปลงจากระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศ เข้าสู่ระยะออกดอก (reproductive growth)ตั้งแต่เกิดตุ่มดอกแรกจนกระทั่งดอกบาน
    �������ระยะที่ 4 การเปลี่ยนแปลงระยะออกดอก ไปสู่ระยะการให้เมล็ด การเจริญเติบโตเริ่มลดลง จนกระทั่งตาย ระยะเวลาตั้งแต่ดอกแรกบาน จนกระทั่งเมล็ดสุกแก่ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 14 วัน เริ่มเกิดตุ่มดอกตามตาดอกในแต่ละส่วนของลําต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น (head) ออกเป็นช่อเดี่ยวที่ยอด หรือตามง่ามใบ มีใบประดับ 5-6 ใบ สีเขียว ดอกวงนอกเป็นเพศเมีย กลีบดอกมีสีขาว ดอกวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศกลีบดอกติดกันเป็นหลอดสีขาวรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ เมล็ดมีรูปร่างแบบรูปไข่กลับขอบขนาน (obovate) มีสีนํ้าตาลอ่อน จนถึงสีนํ้าตาลดํา และผลแก่แห้งสีนํ้าตาลไม่แตก ผลแห้งเมล็ดล่อน (achene) มีจํานวนโดยเฉลี่ย 87 เมล็ด ใน 1 ช่อดอก 176 ช่อดอก/ต้น 87 เมล็ด/ช่อดอก และ 15,312 เมล็ด/ต้น จากนั้นอัตราการเจริญเติบโตลดลง และเริ่มตายโดยลําต้นเริ่มมีสีเหลืองและแห้งตายในที่สุด

    กะเม็งมีทั้งกะเม็งตัวเมียและกะเม็งตัวผู้ จำง่ายๆกะเม็งตัวเมียดอกเล็กสีขาว ส่วนกะเม็งตัวผู้ดอกสีเหลืองใหญ่กว่า

    �������**ต้นกะเม็งตัวผู้ เป็นพรรณไม้ล้มลุก ที่มีลำต้นเลื้อยและชูขึ้น ลำต้นสูงประมาณ 4-20 นิ้ว
    **ใบกะเม็งตัวผู้ มีลักษณะเป็นรูปหอกแกมขอบขนาน ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบแคบ ริมขอบใบเป็นหยักตื้น หลังใบและใต้ท้องใบ มีขนขึ้นประปราย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1 นิ้ว ยาวประมาณ 0.5-3 นิ้ว ก้านใบสั้น
    **ดอกกะเม็งตัวผู้ ออกเป็นดอกเดี่ยว บริเวณปลายยอด ลักษณะของดอกเป็นดอกขนาดเล็ก กลีบดอกวงนอกเป็นรูปรางน้ำ ปลายกลีบดอกเป็นหยัก 3 หยัก กลีบดอกยาว 8-11 มม. กลีบดอกวงในเป็นรูปท่อ ปลายกลีบดอกหยักเป็น 5 แฉก กลีบดอกยาว 4 มม. กลางดอกมีเกสรตัวผู้โผล่พ้นจากกลีบดอก และเกสรตัวเมียจะแยกออกเป็นแฉกโค้ง ดอกเมื่อบานเต็มมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม.
    **ผลกะเม็งตัวผู้ มีรูปลักษณะสอบแคบ ผิวของมันขรุขระไม่เรียบ มีขนาดยาวประมาร 4-5 มม. มีระยางค์เป็นรูปถ้วย ขนาดเล็ก

    �������**ต้นกะเม็งตัวเมีย เป็นพรรณไม้ล้มลุก ที่มีลำต้นตั้งตรง มีความสูงประมาณ 4-32 นิ้ว ลักษณะลำต้นมีขนหรือบางต้นก็ค่อนข้างเกลี้ยง ลำต้นมีกิ่งก้านแตก ที่โคนต้น
    **ใบกะเม็งตัวเมีย มีลักษณะเป็นรูปรี หรือรูปหอก ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบแคบ ริมขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ผิวเนื้อใบเกลี้ยง ขนาดของใบกว้างประมาณ 0.5-2.5 ซม. ยาวประมาณ 3-10 ซม. ก้านใบไม่มี
    **ดอกกะเม็งตัวเมีย ออกเป็นกระจุก ลักษณะของดอกมีกลีบดอกสีขาว ดอกวงในโคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อยาวประมาณ 2 มม. ส่วนปลายจะหยักเป็น 4 แฉก ดอกในวงนอกเป็นรูปรางน้ำ ยาวประมาณ 2.5 มม. ปลายดอกหยักเป็น 2 แฉก ก้านดอกเรียวยาว ยาวประมาณ 2-4.5 ซม.
    **ผลกะเม็งตัวเมีย มีลักษณะเป็นรูปลูกข่าง มีสีดำ ปลายมีระยางค์เป็นเกล็ดยาวประมาณ 2.5 มม. ขนาดของผลกว้างประมาณ 1.5 มม. ยาวประมาณ 3-3.5 มม.

    การป้องกันและกำจัด
    �������1. เมื่อเริ่มมีฝนหรือจะเริ่มทำนา ควรรอให้กะเม็งงอกขึ้นมาพอสมควรก่อนแล้วจึงทำการไถดะ
    �������2. หลังจากนั้นเว้นช่วงให้มีฝนตกและกะเม็งงอกมาอีกแล้วจึงไถแปร
    �������3. และหากจะคราดควรจะทิ้งให้กะเม็งงอกมาอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงหว่านข้าวแห้งและคราดกลบ
    �������4. สำหรับนาหยอดหลังข้าวงอกให้กำจัดด้วยการใช้จอบถากก่อนที่ใบข้าวจะเจริญเติบโตยาวปกคลุมผิวดินจนหมดโดยทำ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 หลังข้าวงอก 2 สัปดาห์ และครั้งที่ 2 หลังข้าวงอก 4 สัปดาห์
    5.สารเคมีที่แนะนำให้ใช้ได้แก่ ไดพิม 50 เอสซี (อาทราซีน), ไดพิม 90 (อะทราซีน), อัพดาว (ไกลโฟเซต ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม) และ อามีทรีน50 (อะมีทรีน) โดยใช้ตามคำแนะนำในฉลากอย่างเคร่งครัด


    กะเม็ง( 0 รายการ )