การเพาะเมล็ด
แบ่งเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกตามขนาดของเมล็ดออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1) ไม้ดอกที่มีเมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่ คือ มีจำนวนเมล็ดเป็นร้อยถึงพันเมล็ดใน 1 กรัม มักเพาะและย้ายกล้าได้ง่าย เนื่องจากภายในเมล็ดมีอาหารสะสมอยู่มาก ต้นกล้าที่งอกขึ้นมาจะมีขนาดใหญ่ ได้แก่ ดาวเรือง บานชื่น ผีเสื้อ รักเร่ ทานตะวัน ดาวกระจาย เป็นต้น

การเพาะเมล็ดจะเพาะในกระบะพลาสติกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า วัสดุเพาะควรเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายสะดวก ไม่จำเป็นต้องมี ธาตุอาหารมากนัก วัสดุเพาะที่ดี ได้แก่ ขุยมะพร้าวที่ร่อนแล้ว 1 ส่วน กับทรายร่อน 1 ส่วนผสมให้เข้ากัน พรมน้ำพอ หมาด ๆ แล้วเตรียมกระบะเพาะ โดยนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาตัดให้พอดีกับก้นกระบะ ตัดกระดาษปิดด้านข้างกระบะ ใส่วัสดุเพาะลงในกระบะประมาณครึ่งกระบะเกลี่ยวัสดุเพาะให้เรียบเสมอกันด้วยไม้บรรทัดหรือไม้เรียบ ๆ ถ้าเกลี่ยผิววัสดุ เพาะไม่เรียบเสมอกันน้ำจะขังตามแอ่งหลุม ทำให้เมล็ดและต้นกล้าเน่าได้ จากนั้นทำร่องปลูกโดยใช้ไม้กดผิวหน้าวัสดุ เพาะให้เป็นร่องลึก 0.5-1 เซนติเมตร เป็นแถวห่างกัน 2.5-3.5 เซนติเมตร ในหนึ่งกระบะเพาะขนาดประมาณ 30 x 37.5 เซนติเมตร จะทำร่องได้ 8-10 ร่อง
หยอดเมล็ดลงในร่อง 30-50 เมล็ดต่อร่อง ใช้ไม้บรรทัดเกลี่ยวัสดุเพาะให้กลบเมล็ดเบา ๆ จากนั้นปิดทับด้วยกระดาษ หนังสือพิมพ์ที่ตัดขนาดเท่ากับผิววัสดุเพาะ แล้วใช้ฝักบัวรดน้ำที่มีฝอยละเอียดรดน้ำให้ชุ่ม ในวันแรกรดน้ำ 3-5 ครั้ง เพื่อให้ความชื้นค่อย ๆ ซึมลงวัสดุเพาะ ต่อมาให้รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 3-5 วัน จึงเปิดกระดาษ ออกเพื่อให้ต้นกล้าได้รับแสงเต็มที่ เมื่อกล้าอายุ 3-7 วัน จึงย้ายลงในถุงพลาสติกหรือถาดหลุมที่ใส่ดินผสมต่อมาอีก 2-3 สัปดาห์ จึงย้ายปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ขึ้นต่อไป
2) ไม้ดอกที่มีเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็ก คือ มีจำนวนเมล็ดเป็นพันถึงหมื่นเมล็ดใน 1 กรัม จะเพาะยากกว่าเมล็ดไม้ดอกที่มี ขนาดใหญ่ไม้ดอกที่มีเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็ก ได้แก่ ลิ้นมังกร โบรวาเลีย คาลซิโอลาเลีย คัมพานูล่า อิริจิรอน โลบิเลีย พิทูเนีย ยาสูบดอก แพรเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น

การเพาะเมล็ดคล้ายกับการเพาะเมล็ดไม้ดอกขนาดใหญ่ แต่ต่างกัน คือ ต้องทำร่องเพาะเมล็ดตื้น ๆ ถ้าร่องลึกเกินไป เมื่อกลบเมล็ดแล้วต้นกล้าจะไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ นอกจากนี้ในการหยอดเมล็ดควรนำเมล็ดมาผสมกับทรายก่อน โรยตามร่องเพื่อให้เมล็ดมีการกระจายตัวได้ดีขึ้น เมื่อเมล็ดงอกเป็นต้นกล้าแล้ว อาจผสมปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำให้มีความ เข้มข้นต่ำ ๆ ฉีดพ่นให้กับต้นกล้าบ้าง เพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้การเพาะเมล็ดไม้ดอกที่มี เมล็ดขนาดเล็ก มีต้นกล้าที่สมบูรณ์แข็งแรงก็คือ วัสดุเพาะควรผสมด้วยใบไม้ผุหมัก หรือปุ๋ยหมักเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วน นอกเหนือจากขุยมะพร้าวและทรายร่อน หรือใช้พีทมอสเป็นวัสดุเพาะก็ได้ เมื่อต้นกล้าอายุ 10-20 วัน จึงย้ายกล้าปลูก ลงถุงหรือถาดหลุมต่อไป
3) ไม้ดอกที่มีเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กมาก ไม้ดอกเหล่านี้จะมีจำนวนเมล็ดมากกว่าหมื่นเมล็ดใน 1 กรัม ได้แก่ บิโกเนีย กล็อกซิเนีย และแอฟริกันไวโอเล็ต

การเพาะเมล็ดควรเพาะในกระถางดินเผาชนิดแบน (กระถางแขวน) วัสดุที่ใช้เพาะจะใช้ทราย ขุยมะพร้าว และใบไม้ปุ๋ย หรือปุ๋ยกทม.ที่ร่อนละเอียด ผสมให้เข้ากันในอัตราส่วน 1:1:1 แล้วนำมาคั่วเพื่อฆ่าเชื้อ พรมน้ำให้ขึ้นในระหว่างที่คัว วัสดุเพาะ จากนั้นนำใยมะพร้าวที่ได้จากการร่อนขุยมะพร้าวมาวางรองที่ก้นกระถาง เพื่อกันวัสดุเพาะไหลออกและช่วย ในเรื่องการระบายน้ำ นำวัสดุเพาะใส่ลงกระถางประมาณครึ่งหนึ่ง เกลี่ยผิวให้เรียบเสมอกัน นำเมล็ดมาผสมกับทราย ละเอียด คลุกให้เข้ากัน แล้วโรยให้กระจายทั่ว ๆ กระถางโดยไม่ต้องทำร่อง ตัดกระดาษหนังสือพิมพ์ให้เป็นรูปวงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับกระถางนำมาวางปิดทับลงบนผิววัสดุ เพาะแล้วรดน้ำด้วยบัวรดน้ำที่มีหัวเป็นฝอยละเอียด ใช้ กระจกใสขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ปิดบนปากกระถางอีกชั้นหนึ่ง เพื่อรักษาความชื้น เมื่อโรยเมล็ดเพาะแล้วควรวาง กระถางในที่ร่มรำไร ทำการรดน้ำทุก 1-2 วัน
หลังจากเพาะแล้ว 10-15 วัน ให้แง้มกระดาษดู ถ้าเมล็ดเริ่มงอกเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ ให้เปิดกระดาษออก ปิดกระดาษไว้ ตามเดิม เมื่อต้นกล้าอายุ 30-45 วัน จึงทำการย้ายปลูกต่อไป วัสดุเพาะเมล็ดที่มีขนาดเล็กมากนี้อาจใช้พีทมอสที่ร่อน ละเอียดแทนก็ได้
|