มะละกอ

         มะละกอ จัดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่สูงมากนัก แต่เดิมคนไทยจะคุ้นเคยกับ “มะละกอพันธุ์แขกดำ” และ “พันธุ์แขกนวล” โดยพันธุ์แขกดำนำมาบริโภคได้ทั้งดิบและสุก ในขณะที่พันธุ์แขกนวลนิยมนำมาทำเป็นส้มตำ ซึ่งส้มตำนั้นในปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับรับประทานกันเป็นอย่างมากสำหรับคนทั่วไป มะละกอไทยจึงมีการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อบริโภคดิบ เพื่อนำมาทำส้มตำโดยเฉพาะ โดยจะมีเนื้อกรอบและรสชาติอร่อยมาก

• ซึ่งมีตัวอย่างมะละกอหลายๆพันธุ์ที่นิยมปลูกกันในปัจจุบันดังนี้
  -มะละกอแขกดำ มีลักษณะทรงพุ่มเตี้ย แข็งแรง ความสูงประมาณ 2-4 เมตร ก้านใบสีเขียวอ่อน ลักษณะสั้นและแข็งแรง ก้านใบตั้งตรง ยาวประมาณ 60-80 เซนติเมตร ใบหนากว่าพันธุ์อื่นๆ มีเส้นใบ 9-11 แฉก มีการออกดอกติดผลเร็ว ผลมีขนาดปานกลาง ส่วนหัวและปลายผลมีขนาดเท่ากัน ผลสุกมีสีส้มอมแดง เนื้อสีแดงเข้ม ช่องว่างภายในผลแคบ เหมาะสำหรับบริโภคสุกและดิบ
  -มะละกอฮอลแลนด์ ลำต้นใหญ่สีเขียว ใบมี 11 แฉกใหญ่ กลางใบมีกระโดงใบ 1 ใบ ก้านใบมีสีเขียวตั้งขึ้น ดอกออกเป็นช่อ ติดผลดก รูปทรงกระบอกคล้ายลูกฟักอ่อน อายุเก็บเกี่ยว 8 เดือน  เนื้อสีแดงอมส้ม ไม่เละ เหมาะสำหรับทานสุก
  -มะละกอแขกดำศรีสะเกษ เป็นมะละกอที่ให้ผลผลิตดกและติดผลไว และให้ผลผลิตสูงกว่ามะละกอแขกดำที่มีปลูกอยู่ทั่วไป ลักษณะภายในผลสุกจะมีเนื้อสีแดงอมส้ม สามารถนำมาบริโภคได้ทั้งดิบและสุก
  -มะละกอพันธุ์แขกดำดำเนิน อายุเมื่อดอกแรกบาน 149 วัน ความสูงเมื่อออกดอก 120 เซนติเมตร ใบสีเขียวเข้ม ดอกตัวผู้มาก ดอกกะเทยน้อย ผลสีเขียวเข้ม รูปร่างยาว โคนเล็ก ตรงกลางค่อนไปทางปลายใหญ่ เนื้อในสีแดงส้ม
  -มะละกอพันธุ์แขกนวล เป็นพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจากพันธุ์แขกดำ เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อส่งโรงงานแปรรูป ลักษณะเตี้ย ใบสีเขียวเข้ม ผลมีขนาดปานกลาง มีลักษณะกลมยาว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อผล เมื่อผลสุกเนื้อมีสีเหลืองเข้ม รสหวาน
  -มะละกอพันธุ์ครั่ง เมื่ออายุ 1-3 เดือน จะมีสีแดง อมม่วงอ่อน ตามก้านใบ และเป็นจุดๆ ตามลำต้นสีเหมือนครั่งดิบ เนื้อจะมีสีขาวขุ่น กรอบ มีรสหวานเล็กน้อย เหมาะสำหรับทำส้มตำ